- เรามีโอกาสจะติดเอดส์ไหม? เช่นเคยเสพยาโดยการฉีด หรือเคยมีเพศสัมพันธ์กับใครโดยไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยหรือไม่ (แม้กระทั่งกับสามีหรือภรรยาของเราเอง เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อมาก่อนหรือไม่)
- รู้ประโยชน์ของการตรวจหรือไม่ เช่น ถ้าตรวจไม่เจอ จะได้เริ่มต้นป้องกันตัวเองอย่างจริงจัง หรือถ้าตรวจเจอ ต้องถือว่าโชคดีที่รู้ตัวก่อนที่จะป่วยขึ้นมา จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่ป่วยหรือเสียชีวิตจากเอดส์ อีกทั้งสามารถป้องกันคนที่เรารักและคนอื่นๆ ไม่ให้ติดเชื้อจากเรา
- รู้หรือว่าตอนนี้ เอดส์รักษาได้ แม้จะไม่หายขาด คนไทยทุกคนมีสิทธิ์ได้รับการรักษาฟรีหมด และถ้ารักษาแต่เนิ่นก็จะได้ไมป่วย หรือเสียชีวิตจากโรคเอดส์ สามารถมีอายุยืนยาวได้เท่ากับคนอื่น และไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น
- ต้องรับรู้ว่าการตรวจเอดส์อาจเกิดผลเสีย (โทษ)ก็ได้ เช่น คนอื่นอาจคิดว่าเราเป็นคนไม่ดี จึงต้องไปตรวจ ทั้งๆ ที่คนที่ไปตรวจน่าจะได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อครอบครัว และต่อสังคม หรือถ้าตรวจเจออาจเป็นทุกข์ใจแสนสาหัสในช่วงต้น แต่ถ้าได้รับการปรึกษาและเข้าใจกระบวนการดูแลสุขภาพ จะทำให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตไปได้
- ถ้าผลตรวจออกมาเป็นลบ (ไม่ติดเชื้อ) หรือถ้าออกมาเป็นบวก (ติดเชื้อ) เราจะทำอะไรต่อ รวมทั้งจะบอกหรือไม่บอกผลเลือด (ทั้งบวกและลบ) กับใคร ด้วยเหตุผลอย่างไร
- ต้องชั่งดูว่าประโยชน์ของการตรวจเอดส์ ซึ่งล้วนแต่เป็นความจริง และมีประโยชน์สำหรับทุกคนเพื่อวางแผนในการดูแลสุขภาพ จะมีมากกว่าผลเสียที่ล้วนเป็นเพียงการคาดเดาหรือไม่ ถ้าประโยชน์มีมากกว่า เราสมัครใจจะตรวจจริง ๆ นะ ไม่มีใครบังคับหรือหลอกเรานะ
- ต้องเข้าใจเรื่องของWindow period กล่าวคือ ระยะเวลาที่ยังอาจตรวจไม่เจอ เพราะเพิ่งได้รับเชื้อเข้ามาไม่ถึง 14 วัน เป็นต้น ดังนั้น ในระหว่างที่รอไปอีก 1-2สัปดาห์เพื่อไปตรวจใหม่ จึงยังต้องใส่ถุงยางอนามัยกับคู่นอนไปก่อน แม้ว่าจะตรวจครั้งแรกไม่เจอแล้วก็ตาม
- ต้องเข้าใจความสำคัญของการพาคู่นอนมาตรวจพร้อมกัน จะได้บอกผลให้กันและกันง่ายขึ้น และจะได้ปลอดภัยจริง ๆ แม้จะไม่ใส่ถุงยางอนามัย
- ในกรณีที่ตรวจแล้วผลเป็นลบ จะต้องมีความเข้าใจว่าจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในอนาคตอย่างไร หรือป้องกันตนเองอย่างไร จะได้ไม่ติดเอดส์ไปตลอดชีวิต เช่น การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์กับใครที่ไม่เคยรู้ผลเลือดเอดส์ของตัวเองเลย หรือการเลิกเสพยา หรือใช้เข็มสะอาดทุกครั้งที่ฉีดยาเสพติดเข้าเส้นเลือด
- และถ้าพลาดพลั้งไป มีพฤติกรรมที่อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีอีก ต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาป้องกัน และควรตรวจเอดส์ซ้ำ โดยที่ในระหว่างรอไปตรวจเลือดซ้ำ จะต้องใส่ถุงยางอนามัยกับคู่นอนของตัว ซึ่งเคยไปตรวจเอดส์แล้วไม่พบไปก่อน