“ชุดตรวจ HIV ด้วยตัวเอง” นับเป็นเรื่องที่ดี ในการป้องกัน และลด การแพร่กระจาย เชื้อเอชไอวี จากการที่ กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศเรื่อง ชุดตรวจ ที่เกี่ยวข้อง กับ การตรวจคัดกรอง การติดเชื้อเอชไอวี ด้วยตนเอง พ.ศ. 2562 ซึ่งนับเป็นเรื่อง ที่ประชาชน ในสังคมให้ความสนใจ เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม มีการตั้งคำถาม เกี่ยวกับการตรวจ การติดเชื้อเอชไอวี ด้วยวิธีดังกล่าว อย่างมากมาย ถึงความแม่นยำ ความปลอดภัย และข้อควรระวัง หรือควรรู้อะไรบ้าง ที่เราจำเป็นต้องรู้ หรือทำความเข้าใจ หากมีชุดตรวจคัดกรอง การติดเชื้อเอชไอวี ด้วยตนเอง หรือ HIV Self Testing (HIVST) ที่ผ่านการรับรอง จากสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อ.ย.) วางขายในท้องตลาด เพื่อเพิ่ม ทางเลือก ในการคัดกรองการติดเชื้อ แทนที่จะต้องไปตรวจที่ รพ เท่านั้น
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า การอนุญาต ให้ประชาชนเข้าถึง การตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวี ด้วยตนเอง
ในครั้งนี้ เป็นมาตรการหนึ่ง ที่ช่วยเรื่อง การยุติปัญหาเอดส์โดย อย.ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชุดตรวจ ที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเอชไอวี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชุดตรวจที่เกี่ยวข้อง กับการตรวจคัดกรอง การติดเชื้อเอชไอวี ด้วยตนเอง พ.ศ. 2562 ซึ่งประกาศ ลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2562 และมีผลบังคับทันที
การที่ปัจจุบัน มีชุดตรวจที่สามารถตรวจ ได้ด้วยตัวเองนั้น ทำให้ผู้ที่มีความเสี่ยง สามารถตรวจหาเชื้อ ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจาก การวินิจฉัยแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความกังวลใจ ไม่ปล่อยให้ตัวเอง มีอาการ หรือพบการติดเชื้อ ในระยะที่ทำการ รักษาลำบาก ยิ่งตรวจพบได้รวดเร็ว ยิ่งรักษา และดูแลร่างกายได้ง่าย อยู่ร่วมกับ คนในสังคม ได้ตามปกติได้ ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ต่อการรับเชื้อเอชไอวี ยังสามารถหาซื้อ ชุดตรวจ HIV ได้ตามร้านขายยาทั่วไป สร้างพฤติกรรมการตรวจ ให้เข้าถึงง่าย และไม่อาย ที่จะตรวจหาเชื้อ นอกจากนี้ ถ้าผู้รับการตรวจ ติดเชื้อเอชไอวี จะทำให้ ได้รับการรักษา ที่ถูกต้อง รวดเร็ว ได้รับทราบข้อมูล ในการดูแลสุขภาพ ให้แข็งแรง รวมถึงเทคนิค ในการเสริมสร้าง ภูมิคุ้มกัน โรคเพื่อลดความเสี่ยง ที่จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน ถูกทำลาย จากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี และนำไปสู่ผู้ป่วย โรคเอดส์เต็มขั้น