6 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตัวร้าย เป็นแล้ว อย่าอายที่จะไปหาหมอ!!

By | พฤษภาคม 16, 2018

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่รู้จักการป้องกันที่ถูกวิธี ย่อมนำมาซึ่งโรคติดต่อร้ายแรงต่างๆ ได้ และเมื่อเป็นแล้ว บางโรคก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เราจึงจำเป็นต้องดูแลตัวเองอยู่ตลอดเวลา วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นั้น มีโรคอะไรบ้าง

หนองใน เริม ซิฟิลิส โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นโรคที่ติดเชื้อและแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งจากการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทวารหนัก โดยปัญหาหลักของโรคเหล่านี้ คือ คนไข้มาทราบว่าตนเองมีความผิดปกติ หรือเพิกเฉยต่ออาการเหล่านั้น และอายที่จะเข้ารับการรักษากับแพทย์

1. เชื้อราในช่องคลอด

โรคเชื้อราในช่องคลอด เกิดจากเชื้อรา แคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida albicans) โดยปกติเป็นเชื้อที่อยู่ในช่องคลอดโดยไม่ทำให้เกิดโรค แต่ถ้าร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ ได้รับยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน หรือมีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคเอดส์ หรือมีภาวะอับชื้นบริเวณอวัยวะเพศเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้เชื้อรามีปริมาณมากขึ้นจนก่อโรค โดยอาการสำคัญที่ควรต้องเข้ามาปรึกษาแพทย์ ได้แก่
  • ตกขาวผิดปกติ
  • มีกลิ่น
  • ผนังช่องคลอดมีลักษณะบวมแดง
  • มีอาการคันบริเวณอวัยวะเพศและภายในช่องคลอด

ซึ่งอาการดังกล่าวเหล่านี้เป็นอาการที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงที่จะเป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ขั้นรุนแรง

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

2. โรคเอดส์ (AIDS)

เอดส์ หรือ AIDS (Acquired Immune Deficiency Syndrome) เป็นกลุ่มอาการของโรค ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอดส์ (HIV) ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรคทำให้ติดเชื้อโรคอื่นๆ ได้ง่าย และเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต

3. โรคหนองใน

เกิดจากเชื้อหนองใน (Neisseria gonorrhoeae) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เจริญได้ดีในที่ชื้น และที่อบอุ่นของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ ตั้งแต่ปากมดลูก มดลูก ปีกมดลูก ท่อปัสสาวะ (ทั้งหญิงและชาย) นอกจากนี้ หนองในยังสามารถเจริญในที่อวัยวะอื่นๆ เช่น เยื่อบุช่องปาก คอ ตา ทวารหนัก เกิดได้จากการสัมผัสเยื่อบุช่องคลอด ช่องปาก ทวารหนัก องคชาต (อวัยวะเพศชาย) โดยอาจมี หรือไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิ ยังอาจติดจากมารดาสู่ทารกในระหว่างการคลอดได้

4. โรคซิฟิลิส

ซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มิได้เกิดเฉพาะอวัยวะสืบพันธุ์เท่านั้น แต่สามารถเป็นได้ทุกแห่งของร่างกาย เช่น ลิ้น มือ แขน ขา รวมทั้งระบบประสาทหัวใจ เส้นเลือด ตา กระดูก ฯลฯ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า ทรีโพนีมา พัลลิดุม (TreponemaPallidum) เป็นแบคทีเรียที่มีขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายเกลียวสว่าน ซิฟิลิสสามารถติดต่อโดยการร่วมเพศ เชื้อจะเข้าทางรอยถลอกหรือบาดแผลเล็กน้อย หรืออาจไชเข้าเยื่อบุผิวของท่อปัสสาวะ ทวารหนัก ช่องคลอด หรือ ช่องปาก

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

5. เริม

โรคเริมที่อวัยวะเพศเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย เกิดจากเชื้อไวรัส (Herpes simplex virus) เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่เป็นโรคเชื้อไวรัสจะเข้าสู่ผิวหนังทำให้เกิดเป็นโรคเริมครั้งแรก หลังจากนั้นเชื้อไวรัสจะเข้าสะสมในปมเส้นประสาท และเมื่อเกิดปัจจัยกระตุ้นเชื้อจะเคลื่อนจากปมประสาทมาตามเส้นประสาทจนถึงปลายประสาทและเกิดโรคซ้ำที่ ผิวหนังหรือเยื่อบุ การเกิดโรคเริมพบได้ในหลายตำแหน่ง เช่น ที่ริมฝีปาก หรือบริเวณอวัยวะเพศ

6. หูดหงอนไก่

หูดหงอนไก่ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ยังคงพบได้มาก จากลักษณะนิสัยของไวรัสต้นเหตุที่เรียกว่า ฮิวแมน แปปิโลมาไวรัส (เอชพีวี) ชนิดความเสี่ยงต่ำ เมื่อมีการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จะเข้าไปรบกวนการแบ่งตัวของเซลล์ชั้นล่างสุดของเยื่อบุเซลล์ที่แบ่งตัวจะเปลี่ยนรูปร่างและหน้าที่จนควบคุมไม่ได้ เกิดเป็นเนื้องอกนูนออกมา ลักษณะเป็นติ่งเนื้ออ่อนๆ สีชมพูคล้ายหงอนไก่ ชอบขึ้นที่อุ่นและอับชื้น ในผู้ชายมักพบที่อวัยวะเพศบริเวณใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย ตลอดทั้งบริเวณรอบรอยเปิดขอบท่อปัสสาวะ และอัณฑะ ส่วนผู้หญิงจะพบที่ปากช่องคลอด ผนังช่องคลอด ปากมดลูก ปากทวารหนักและฝีเย็บหูดมีขนาดโตขึ้นเรื่อย

เชื่อว่าคงไม่มีใครที่อยากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กันทั้งนั้น ดังนั้นการป้องกันจึงเป็นวิธีที่สำคัญมากที่สุด หากพบว่าตัวเองมีอาการหรือสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น อย่าอายที่จะไปพบแพทย์นะคะ เพราะไม่อย่างนั้น จากจุดเล็กๆ อาจจะกลายเป็นโรคร้ายแรงได้ในที่สุด

ที่มา : www.paolohospital.com