โรคซิฟิลิสระบาด โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ ที่เกิดจาก เชื้อแบคทีเรีย ทริปโปนีมา พัลลิดัม (Treponema Pallidum) ซึ่ง เป็นเชื้อแบคทีเรีย ที่ติดต่อ ผ่านทาง การมีเพศสัมพันธ์ และ ผ่านทางแผลได้ หากเรา ได้รับเชื้อ จากแผล ของผู้ป่วย
โดยแผลเหล่านี้ จะเกิดตามอวัยวะเพศ แล้วหากคู่นอน ได้สัมผัส กับเชื้อแบคทีเรีย เช่น อวัยวะเพศช่องคลอด ช่องปาก ทวารหนัก ซึ่งจะได้รับเชื้อ ผ่านทาง การทำออรัลเซ็กส์ หรือการมีเพศสัมพันธ์ อื่น ๆ ร่วมด้วย
เมื่อช่วงทศวรรษ 1990 ที่ผ่านมา จำนวนสถิติ ของผู้ป่วยซิฟิลิส ได้มีการลดลง ในระดับที่น่าพอใจ จึงทำให้ ผู้คนไว้วางใจ แล้วว่า โรคซิฟิลิส ที่ร้ายแรงนี้ จะหมดไป จากโลกใบนี้ แต่ปัจจุบัน โรคซิฟิลิส ก็กลับมา ระบาดอีกครั้งและปริมาณ ของผู้ป่วย ยังมีสถิติ ที่เพิ่มขึ้น จนน่าตกใจ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ มักจะอยู่ในวัย 15-24 ปี ซึ่งก็คือ วัยเจริญพันธุ์นั่นเอง
โรคซิฟิลิสกลับมาระบาดได้อย่างไร
โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ โรคซิฟิลิส กลับมาระบาด อีกครั้งนั้น เกิดจากการที่ วัยรุ่นส่วนใหญ่ ไม่สวมใส่ ถุงยางอนามัย ขณะที่มีเพศสัมพันธ์ การเปลี่ยนคู่นอน หลายคน
รวมไปถึง การได้รับข้อมูล เรื่องเพศสัมพันธ์ ไม่เพียงพอ ต่อการป้องกันตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางโรงพยาบาลบางรัก ได้มีการออกมาให้ข้อมูล เกี่ยวกับการกลับมา ระบาดของโรคซิฟิลิส ให้ข้อมูล โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
โรคซิฟิลิสระบาด แพทย์ให้ข้อมูลว่า ประเทศไทย มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่กลับมาระบาดอีกครั้ง ซึ่งสถิติ ของผู้ที่ติดเชื้อ มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น จากการติดเชื้อซิฟิลิส โรคติดต่อทางเพศ สัมพันธ์ส่วนใหญ่แล้ว จะพบในหมู่ของวัยรุ่น มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ซิฟิลิสนั้น ยังคงสามารถ พบได้ในทุกเพศทุกวัย รวมไปถึงทารก ที่เกิดจากมารดา ที่ไม่ทราบว่าตนเองนั้น ติดเชื้อซิฟิลิส
อาการของโรคซิฟิลิสเป็นอย่างไร
หลังจากที่ ได้มีการติดเชื้อ ไปแล้ว ผู้ป่วยอาจจะมี แผลริมแข็ง แต่ไม่เจ็บ โดยจะเกิดขึ้น ตามอวัยวะเพศ หรือตามร่างกาย และหลังจากนั้น แผลที่เกิดขึ้น ก็จะหายไปเอง เวลาผ่านไป เชื้อจะเริ่มขยับขึ้นมา กลายเป็นระยะ ที่สอง
ซึ่ง ในระยะที่ 2 นี้ อาจจะมีผื่นขึ้น ตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า อาจจะทำให้ ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ และมีแผลขึ้น บริเวณอวัยวะเพศ แต่สำหรับ บางคนอาจ ไม่มีการแสดงอาการ ในขณะที่บางคน มีการแสดงอาการ แล้วก็หายไปเอง
แต่หลังจากนั้น เชื้อซิฟิลิส ก็จะยังอยู่ ภายในร่างกาย ของเราไปเรื่อย ๆ จนถึงระยะที่ 3 โดยใช้ระยะเวลา ประมาณ 10 ปี เชื้อแบคทีเรียนี้ ยังสามารถ ทำให้เป็นซิฟิลิส ที่หลอดเลือดหัวใจ สมอง และยังสามารถ ทำลายเข้าไปถึงกระดูกได้
แต่อย่าพึ่งตกใจไป โรคซิฟิลิส สามารถรักษา ให้หายขาดได้ และวิธีป้องกันตนเอง คือ การไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ สวมถุงยางอนามัย ทุกครั้ง เมื่อมีเพศสัมพันธ์ หากมีความกังวล หรือมีอาการ ที่ผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจและรักษา
อย่างไรก็ตามหากคุณไปรับความเสี่ยงมา ก็ควรทำ การตรวจหาเชื้อ โดยใช้วิธีการตรวจด้วย ชุดตรวจซิฟิลิสด้วยตนเอง ที่มีความปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน มาทำการตรวจคัดกรองเบื้องต้นก่อน
ซึ่งการใช้ ชุดตรวจด้วยตนเอง จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่กล้าเดินทางไปตรวจตามสถานพยาบาล หรือคลินิกต่าง ๆ เพราะหากตรวจคัดกรองด้วยตนเองแล้วพบว่ามีการติดเชื้อ หรือไม่มีการติดเชื้อ ก็อย่างพึ่งวางใจ แต่ให้ทำการตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันผลตรวจที่แน่ชัด