ผลเลือด Positive คืออะไร
โรคติดเชื้อเอชไอวี สามารถติดต่อได้ ทางเพศสัมพันธ์ ที่ไม่มีการป้องกัน สามารถส่งต่อได้จากแม่สู่ลูก และจากการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เราไม่สามารถทราบได้เลยว่า ใครบ้างที่ติดเชื้อเอชไอวี หากคนๆ นั้น ไม่ได้บอกเราโดยตรง เพราะผลตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีนั้น ถือเป็นความลับส่วนบุคคล เปิดเผยไม่ได้ หากไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของผลเลือด ในขณะที่ บางคนก็ไม่ทราบด้วยซ้ำว่า ตนเองนั้นติดเชื้อเอชไอวีไปแล้ว และยังมีเพศสัมพันธ์กับคนรัก หรือคนอื่นๆ ต่อไป ซึ่งหากไม่ได้ป้องกัน หรือมีกิจกรรมอื่นที่สุ่มเสี่ยง อย่างเช่น Oral sex ก็อาจทำให้ มีการแพร่เชื้อไปสู่คู่นอนได้
ในกรณี ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่มีการดูแลรักษา อย่างถูกต้องจากแพทย์ และมีวินัย ในการรับประทานยา ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ในกรณีนี้ ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแสดงออกมา ให้เราทราบว่าเขาเป็นผู้ติดเชื้อ อีกทั้งผู้ป่วยนั้นจะสามารถดำรงชีวิตได้ อย่างปกติสุข มีอายขัยเทียบเท่ากับคนปกติ
ดังนั้น หากคุณมีความเสี่ยง ที่จะติดเชื้อเอชไอวี ให้คุณรีบทำการตรวจเลือดโดยเร็ว เพื่อที่จะ วางแผนการรักษาได้ถูกทาง และไม่เข้าสู่สภาวะเอดส์ ซึ่งถ้าหากผลตรวจออกมาแล้ว พบว่าคุณไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวี ก็จะทำให้คุณ มีความสบายใจมากขึ้น
การตรวจเอชไอวีในปัจจุบันมีอยู่ 4 แบบ คือ
1. ตรวจหาแอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวี (Anti-HIV)
2. ตรวจหาแอนติเจนของเชื้อเอชไอวี (p24 antigen)
3. ตรวจแบบ NAT
4. ตรวจหา Anti-HIV และตรวจหา p24 antigen ในคราวเดียว
ซึ่งความแตกต่างของแต่ละแบบ ก็คือ เงื่อนไขของระยะเวลา ที่สามารถตรวจได้ โดยช่วงระยะเวลา ที่สามารถตรวจได้ จะอยู่ที่ประมาณ 7-21 วัน ขึ้นไปนั่นเอง ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ทุกคนสามารถซื้อ ชุดตรวจเอชไอวีมาตรวจด้วยตัวเองได้แล้ว ซึ่งชุดตรวจนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการตรวจแบบ Anti-HIV โดยเป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้น รู้ผลภายใน 10-20 นาที หากผลออกมาพบว่าติดเชื้อเอชไอวี ให้ผู้ตรวจไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อยืนยันผลอีกครั้ง
การแสดงผลเลือดจากการตรวจหาเชื้อเอชไอวี
ผลเลือด Positive คืออะไร ? จากที่กล่าวมาก่อนหน้านี้จะพบว่าการตรวจเอชไอวีมีอยู่ 4 แบบ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ตรวจด้วยตนเองหรือตรวจที่สถานพยาบาล ผลการตรวจจะแสดงในรูปแบบดังต่อไปนี้เสมอ
1. Negative (ผลเลือดลบ) หมายถึงไม่ได้ติดเชื้อ HIV ในบางครั้งอาจมีการแสดงผลว่า Non-Reactive ซึ่งมีความหมายเหมือนกัน คือ ไม่ได้ติดเชื้อ ไม่พบการติดเชื้อ อาจเรียกผลเลือดว่า HIV-Negative
2. Positive (ผลเลือดบวก) หมายถึงพบการติดเชื้อ HIV ในบางครั้งอาจมีการแสดงผลว่า Reactive ซึ่งมีความหมายเหมือนกัน คือ ติดเชื้อ พบการติดเชื้อ อาจเรียกผลเลือดว่า HIV-Positive
การวินิจฉัย การตรวจหาเชื้อเอชไอวี จะเป็นการตรวจเลือดว่า มีเชื้อเอชไอวีอยู่หรือไม่ จะเรียกว่าเลือดบวก ต่อเมื่อตรวจพบไวรัสเอชไอวี “HIV POSITIVE” เท่ากับว่า ติดเชื้อเอชไอวีแล้ว ผู้ป่วยจะได้รับการประเมิน หรือคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อเตรียมการวางแผนในการรักษา และความเสี่ยง ในการติดเชื้อฉวยโอกาสอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยผลเลือด เป็น Positive หรือ Negative ไม่ได้ใช้แค่ สำหรับการตรวจเอชไอวี มีการใช้การวินิจฉัยนี้ กับการตรวจเลือดหาโรคอื่นๆ อีกด้วย (ไม่ได้หมายความว่า ตรวจหาเอชไอวีจะสามารถบอกโรคอื่นได้) ดังนั้น หากคุณตรวจโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่เอชไอวี แล้วคุณหมอบอกว่า เลือดของคนเป็น Positive ก็อย่าพึ่งตกใจ คุณไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวี แต่คุณป่วยเป็นโรคที่คุณไปทำการตรวจนั้น
การตรวจเลือดหา เชื้อเอชไอวี ในปัจจุบันอาจจะ มีสถานการณ์ที่ดีขึ้น กว่าเมื่อก่อนมาก มีผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่กล้าไปตรวจที่ สถานพยาบาล และเข้ารับการรักษา แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนมาก ที่ไม่กล้าไปตรวจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ทาง อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา) ได้ปลดล็อก ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเอง ให้ประชาชนสามารถหาซื้อมาตรวจด้วยตัวเองได้แล้ว ในเมื่อมันหาตรวจได้ง่ายขึ้น โดยที่คุณไปไม่ต้องเสี่ยงไปตรวจที่โรงพยาบาลเลย ให้ทราบผลเลือดเบื้องต้นก่อนว่าบวกหรือลบ หากเป็นบวก จึงค่อยไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
หากอยากมั่นใจในทุกครั้งที่ตรวจ โปรดซื้อชุดตรวจเอชไอวีกับร้านที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานรับรอง
สนใจซื้อชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง Click เพื่อ Add LINE สอบถามได้เลยค่ะ