ตรวจเอดส์ รู้ผลทันที ปัจจุบันการตรวจเอชไอวี ( HIV) หรือเอดส์ (AIDS) นั้น จะแตกต่างกันออกไป เพราะเมื่อร่างกายคุณ ได้รับเชื้อเอชไอวีแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย จะทำการสร้างภูมิคุ้มกัน ขึ้นมาเพื่อต่อสู้ และกำจัดเชื้อไวรัส ที่เข้าไปสู่ร่างกาย ซึ่งการตรวจเอชไอวี จะใช้หลักการตรวจ หาภูมิคุ้มกันในเลือด ปกติแล้วจะใช้ ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน หลังจากที่ติดเชื้อไปแล้ว จึงจะสามารถปิดเคส การตรวจวินิจฉัยได้
โดยเรามักจะเรียกระยะเวลา 3 เดือนนี้ว่า ระยะฟักตัว (window period) ซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาที่มีการติดเชื้อแล้ว แต่ยังไม่สามารถตรวจพบได้ ขึ้นกับร่างกายของแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่แล้วก็สามารถตรวจพบได้ภายใน 3 สัปดาห์หลังจากรับความเสี่ยง
แต่บางรายนั้นต้องใช้เวลานานกว่า 3 เดือน จึงจะตรวจพบ ฉะนั้นแล้วหากเข้ารับการตรวจเอชไอวี แพทย์จะพิจารณาถึงช่วงของระยะฟักตัว (window period) ที่อาจทำให้ผลการตรวจออกมาเป็นลบ โดยจะให้ทำการตรวจซ้ำๆ เป็นระยะๆ
การตรวจหาเชื้อเอชไอวีจะมี 3 วิธีหลัก ๆ คือ
การตรวจแบบ Anti-HIV เป็นการตรวจ ที่สามารถให้บุคคล ที่มีความเสี่ยง เข้ารับการตรวจ ได้ฟรีถึงปีละ 2 ครั้ง ที่โรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพียงแค่ยื่นบัตรประชาชนเท่านั้น โดยการตรวจ ด้วยวิธีนี้ จะให้ผลลัพธ์ได้ ภายใน 1-2 ชั่วโมง หลังการตรวจ แต่ผลที่ได้ จะเป็นผลย้อนหลังประมาณ 1 เดือน หลังจากที่คุณไปเสี่ยงมา นอกจากนี้แล้ว โรงพยาบาลเอกชน ก็ยังสามารถตรวจหาเชื้อแบบ Anti-HIV แต่จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 500 – 800 บาท ต่อครั้ง สำหรับ การเจาะเลือดหาเชื้อเอชไอวีแล้ว อาจจะมีค่าแพทย์ ตามแต่ละโรงพยาบาล ที่แตกต่างกันออกไป
การตรวจแบบ NAT หรือ Nucleic Acid Testing การตรวจแบบ NAT จะแตกต่าง จากการตรวจแบบ Anti-HIV คือ จะสามารถ ชี้วัดผล จากร่างกายของเรา โดยย้อนหลัง ไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากที่ไปเสี่ยงมา ยกตัวอย่างเช่น หากคุณ ไปมีเพศสัมพันธ์ แบบไม่ได้สวมถุงยางอนามัย หรือไม่ได้มีการป้องกันมา เมื่อ 1 สัปดาห์ที่แล้วมา แล้วมีความวิตกกังวลใจ ว่าจะมีความเสี่ยง ที่จะได้รับเชื้อเอชไอวีมา ซึ่งการตรวจแบบ NAT จะสามารถทราบผลเลือด ว่า เป็นบวก หรือเป็นลบ ที่แน่ชัด กว่าการตรวจ ในรูปแบบ Anti-HIV
การตรวจแบบ Rapid HIV หรือ การตรวจเอชไอวี ชนิดเร็ว การตรวจด้วยวิธีการนี้ จะใช้เวลา ในการตรวจหาเชื้อ เพียง 20 นาทีเท่านั้น ถึงแม้ว่า จะให้ผลลัพธ์เร็ว กว่าการตรวจแบบวิธีอื่น แต่ก็เป็นเพียง การตรวจ เพื่อคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น
ปัจจุบัน การตรวจแบบนี้ ถูกนำมาผลิต เป็นชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ซึ่งการตรวจด้วยวิธีการนี้ จะสามารถทำการตรวจ ได้เองที่บ้าน จึงเหมาะ กับผู้ที่ไม่สะดวก เดินทางไปตรวจ ตามสถานพยาบาล ตรวจเอดส์ รู้ผลทันที
อย่างไรก็ตาม หากคุณไปรับความเสี่ยง ที่จะติดเชื้อเอชไอวีมา ไม่ว่าจะตรวจ ด้วยวิธีการไหนก็ตาม หากภายในร่างกาย ของคุณมีเชื้อเอชไอวี อยู่แล้ว ทั้ง 3 วิธีนี้ ก็จะสามารถตรวจ พบเชื้อได้ทั้งหมด
แต่ก็ขึ้นอยู่กับ ระยะเวลาของการได้รับเชื้อ หรือขึ้นอยู่กับการตรวจ ในแต่ละวิธี ว่าสามารถรู้ผลช้า หรือเร็วแค่ไหน ทั้งนี้ หากคุณ มีความวิตกกังวลใจ ก็สามารถเลือก ซื้อชุดตรวจที่คัดกรองเบื้องต้นด้วยตนเอง มาทำการตรวจ เพื่อคลายความกังวลใจ ก่อนที่จะเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาล เพื่อรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เพราะหากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งตนเอง และครอบครัว ก็จะได้เตรียมรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม และพร้อมเข้ารับการรักษาเพื่อไม่ให้เชื้อเอชไอวีลุกลามไปถึงขั้นภาวะเอดส์ได้