ตรวจเอดส์ กี่วันรู้ผล เอชไอวี (HIV) เป็นโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ ชนิดหนึ่ง ที่อาจก่อให้เกิดโรคเอดส์ (AIDS) ได้ในภายหลัง โดยเชื้อเอชไอวี จะกระจาย เข้าไปสู่ร่างกาย ผ่านทางกระแสเลือด
ซึ่งเชื้อ จะเข้าไป ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ให้มีการทำงาน ที่บกพร่อง จนทำให้ร่างกาย อ่อนแอลง จนก่อให้เกิด โรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย และอาจเสียชีวิตลง ในที่สุด
วิธีเดียวที่จะทำให้รู้ว่า คุณติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ คือ การเข้ารับ การตรวจหาเชื้อเอชไอวี โดยเฉพาะ ผู้ป่วย ที่ติดเชื้อเอชไอวี อาจจะไม่ทราบว่า ตนเองนั้น มีเชื้อเอชไอวี อยู่ภายในร่างกาย เพราะเนื่องจาก การติดเชื้อในระยะเริ่มแรก อาจจะยัง ไม่แสดงอาการ ออกมาให้เห็น ถึงตอนนั้น เชื้อเอชไอวีก็อาจพัฒนาไปถึงขั้นโรคเอดส์แล้ว และเมื่อถึงขั้นโรคเอดส์
สภาพร่างกาย จะมีความอ่อนแอ จนทำให้ รักษาให้หายขาดได้ยาก ดังนั้น การเข้ารับ การตรวจ จึงเป็นทางออก ที่ดีที่สุด ตรวจเอดส์ กี่วันรู้ผล ในปัจจุบัน การตรวจเอชไอวี สามารถทำได้ 3 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน คือ
– การตรวจแบบ Anti-HIV การตรวจด้วยวิธีการนี้ จะสามารถ ให้ผลตรวจได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง หลังการตรวจ โดยผล ที่ได้จากกาตรวจจะเป็น ผลย้อนหลังประมาณ 1 เดือน คือ หากคุณ ไปมีความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อมา เช่น มีเพศสัมพันธ์ โดยไม่สวม ถุงยางอนามัย หรือถุงยางอนามัย เกิดการรั่ว ซึ่งวิธีการตรวจนี้ จะใช้ไม่ได้ผล เพราะถือว่าเชื้อเอชไอวี ยังอยู่ในช่วงระยะ ของการฟักตัวอยู่
– การตรวจแบบ NAT การตรวจด้วยวิธีการนี้ จะมีความแตกต่าง จากการตรวจแบบ Anti-HIV ก็คือ จะสามารถให้ผลลัพธ์จากร่างกายของเรา ย้อนไปเพียงแค่ 3-7 วันเท่านั้น
หลังจาก ที่ได้รับความเสี่ยงมา การตรวจด้วยวิธี การนี้ผู้ที่มี ความเสี่ยง ก็สามารถเข้ารับการตรวจ แบบฟรี ปีละ 2 ครั้ง ได้ตามคลินิกนิรนาม หรือโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่
– การตรวจแบบ Rapid HIV Test หรือชุดตรวจแบบวันเดียวรู้ผล การตรวจด้วยวิธีการนี้ จะใช้เวลาในการ รอผลตรวจเพียง 20 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่า มีความรวดเร็ว กว่าวิธี การตรวจแบบอื่น ๆ แต่การตรวจด้วยวิธีการนี้ ก็เป็นเพียงการตรวจเพื่อคัดกรอง เบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบัน การตรวจด้วยวิธีการนี้ ก็สามารถทำการตรวจ ได้ด้วยตนเองที่บ้าน โดยไม่ต้อง เดินทางไปตรวจ ตามโรงพยาบาล
นอกจากนี้ ในปัจจุบันนี้มี ชุดตรวจเอชไอวี จำนวนมาก ที่สามารถให้คนทั่วไป ที่มีความเสี่ยงหาซื้อ กันได้อย่างง่ายดาย โดยจะมีทั้งชุดตรวจที่ผ่านการรองรับกับทาง อย. และชุดตรวจที่ไม่ผ่านการรองรับ ซึ่งหากผู้ที่มีความเสี่ยงต้องการที่จะทำการตรวจหาเชื้อ การเลือกซื้อ ชุดตรวจที่มีคุณภาพสูง หรือผลที่ได้มีความแม่นยำ
ผู้ซื้อ จะต้องทำการตรวจสอบ สถานะของสินค้า มาตรฐานสินค้า ความปลอดภัย หรือแม้กระทั่งร้านค้า ที่จัดจำหน่าย ว่ามีความน่าเชื่อถือ มากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ก็สามารถ ให้ความแม่นยำ ได้มากกว่า 99% มีความปลอดภัย และได้มาตรฐาน ซึ่งก็ไม่ต่างจาก การเดินทาง ไปตรวจตาม โรงพยาบาล หรือคลินิก ทั้งนี้ ชุดเอชไอวีด้วยตัวเอง เป็นเพียง การตรวจคัดกรองเบื้องต้น เท่านั้น หากผลตรวจที่ได้ เป็นบวก ก็อาจจะดำเนิน การตรวจซ้ำ อีกครั้ง เพื่อคัดกรองผลให้แน่ชัด เมื่อเป็นบวกให้ดำเนินการไปตรวจยืนยันที่โรงพยาบาลทันทีเพราะหากรู้ผลตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะได้เข้ารับ การรักษา ได้อย่างเหมาะสม หากผลเป็นลบ ก็แนะนำว่า ให้ตรวจหลังสามเดือน อีกหนึ่งครั้ง หากผลออกมาเป็นลบ ก็สามารถ สบายใจได้ทันที