โรคเอดส์ แสดงอาการ ตอน ไหน
โรคเอดส์ แสดงอาการ ตอน ไหน ปัจจุบันนี้การติดเชื้อเอชไอวี (HIV) กับโรคเอดส์ (AIDS) นั้นมีความแตกต่างกัน เพราะ HIV นั้นไม่ใช่โรค แต่เป็นเชื้อไวรัสที่เมื่อร่างกายได้รับเข้าไปจะทำให้เกิดความเจ็บป่วยในเวลาต่อมา ซึ่งในระยะแรกจะยังไม่มีอาการรุนแรง แต่จะมีเพียงอาการที่เกิดขึ้นจากการตอบสนองของร่างกายจากการติดเชื้อ หรือในบางรายก็ไม่มีอาการใด ๆ ส่งผลให้ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อเอชไอวีเข้าไปแล้ว อาจไม่รู้ตัวว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี และเมื่อไม่ได้ทำการรักษาก็อาจส่งผลให้เชื้อเอชไอวีพัฒนาไปสู่ระยะต่อ ๆ ไป จนทำให้เชื้อเข้าสู่ภาวะเอดส์ ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวีนั่นเอง
อาการของผู้ป่วยเอชไอวี เมื่อร่างกายได้รับเชื้อไปแล้ว จะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะด้วยกันทั้งหมด คือ
- ระยะเริ่มต้น อาจเริ่มต้นขึ้นในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังรับเชื้อ ซึ่งหากร่างกายได้รับเชื้อเอชไอวีเข้าไปแล้ว จะยังไม่แสดงอาการให้เห็นได้ชัดเจน หรือถ้ามีก็อาจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อาทิเช่น มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ท้องร่วง หรือต่อมน้ำเหลืองโต และหลังจากนั้นอาการก็จะสามารถหายได้เองในเวลาประมาณ 14-28 วัน และในระยะนี้เป็นระยะที่จะทำการตรวจวินิจฉัยค่อนข้างยาก และจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการตรวจเลือดเพื่อความชัดเจนมากที่สุด
อย่างไรก็ตามในระยะนี้ก็อาจจะไม่มีอาการใด ๆ ที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อ ดังนั้นจึงไม่อาจบ่งบอกได้ว่า อาการนั้น ๆ คือการติดเชื้อเอชไอวีหรือเปล่า การตรวจจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ทราบได้
- ระยะติดเชื้อเรื้อรัง ระยะสงบทางคลินิก หรือระยะติดเชื้อโดยไม่มีอาการ เป็นระยะที่ไม่มีอาการใด ๆ ที่แสดงให้เห็นได้ชัดเจนมาก และระยะนี้จะนานถึงหลายปี ไวรัสจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปริมาณต่ำ ทั้งนี้ในบางครั้งอาจมีอาการที่เกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลัน แต่ไม่รุนแรง อาทิเช่น มีเชื้อราในช่องปาก วัณโรค โรคเริม งูสวัด หรือปอดกำเริบ เป็นต้น และเชื้อเอชไอวีก็จะทำการแทรกซ้อนในต่อมน้ำเหลือง ซึ่งจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลงและไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้
- ระยะเอดส์ เป็นระยะที่ระบบภูมิคุ้มกันได้ถูกทำลายลงอย่างหนัก ทำให้ร่างกายของผู้ป่วยนั้นมีอาการเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ ได้ง่าย และที่สำคัญในระยะนี้ถือเป็นระยะที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตลงสูงมาก เนื่องจากเป็นระยะที่มีโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ เยอะ และมีอาการที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างชัดเจน อาทิเช่น ท้องร่วงเรื้อรัง น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อ่อนเพลียมาก มีไข้เรื้อรัง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโต หรือโรคมะเร็งบางชนิด เป็นต้น
ดังนั้น ถ้าหากถามว่า โรคเอดส์ แสดงอาการ ตอนไหน คำตอบคือ ระยะสุดท้ายของการติดเชื้อ HIV ซึ่งอาจจะนานเป็น 10 ปี หลังจากได้รับความเสี่ยง หรือบางคนอาจจะนานกว่าหรือน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับพื้นฐานสุขภาพของแต่ละบุคคล
ทั้งนี้ หากใครที่มีความเสี่ยง ไม่อยากให้คุณต้องรอจนกว่าจะมีอาการ เพราะอาการที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าคุณได้รับเชื้อเอชไอวีจริง อาการที่เกิด อาจจะเป็นผลมาจากการเจ็บป่วยด้วยเชื้อโรคอื่น ๆ หากถามว่าอาการแบบนี้ใช่การติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ คงตอบไม่ได้ หรืออาจจะตอบว่า มีความเป็นไปได้ ที่จะติดเชื้อเท่านั้น
แนะนำว่า หากใครที่คิดว่าตนเอง มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ควรไปเข้ารับการ ตรวจหาเชื้อHIV อาจจะตรวจที่สถานพยาบาล หรือ คลินิกต่าง ๆ ก็ได้ ทั้งนี้หากเป็นโรงพยาบาลรัฐ จะมีบริการ ตรวจHIVฟรี หรือ หากใครที่ไม่สะดวกเดินทางไปตรวจกับ ทางสถานพยาบาล ปัจจุบันก็ได้มี ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง วางจำหน่ายผ่านทางร้านขายยา ซึ่งสามารถหาซื้อมาทำการตรวจได้ด้วยตนเอง ที่บ้านง่าย ๆ มีความปลดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน สามารถรู้ผลได้ใน 15-20 นาที เพราะหากตรวจเจอเชื้อเร็ว ก็มีโอกาสในการเข้ารับการรักษา และรับยาต้านได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ชุดตรวจHIV เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้น เท่านั้น หากตรวจในระยะเวลาที่เหมาะสมกับวิธีตรวจ และผลเป็นลบ สามารถสบายใจได้ แต่หากผลเป็นบวกต้อง เข้ารับการตรวจยืนยันกับสถานพยาบาลโดยเร็ว
การเข้ารับการรักษาและรับยาต้านไวรัส ให้ไวที่สุด อย่างถูกต้องเหมาะสม อยู่ในความดูแลของแพทย์ จะช่วยทำให้อาการของโรคสงบ ไม่มีอาการ ลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อ ป้องกันการเข้าสู่ระยะเอดส์
นอกจากนี้ยังช่วยให้ค่า CD4 สูงขึ้น ลดโอกาสที่ผู้ป่วยจะมีอาการแสดง สามารถใช้ชีวิตได้ดังคนปกติ อายุขัยยืนยาวดังเดิม เพียงทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ อีกทั้ง เพื่อรอโอกาสในการรักษาเอชไอวีให้หายขาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้