ซิฟิลิส กับ เอดส์ เหมือนกันไหม โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ ชนิดหนึ่ง ที่มีสาเหตุ มาจากการติดเชื้อ แบคทีเรีย ที่มีชื่อว่า ทริปโปนีมาพัลลิดุม ( Treponema Pallidum ) เมื่อร่างกาย ได้รับเข้าไปแล้ว เชื้อจะกระจาย เข้าไปตามกระแสเลือด และอาศัยอยู่ ภายในร่างกาย ของเราเกือบทุก ๆ ส่วน
เมื่อเชื้อได้เข้าสู่ ร่างกายแล้ว หากปล่อยไว้ ไม่เข้ารับ การรักษาอาการ อาจมีความรุนแรง มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนอาจนำไปสู่ การเสียชีวิตลงได้
ในส่วนของ โรคเอดส์ (AIDS) โรคเอดส์ เป็นภาวการณ์ป่วย ในขั้นสุดท้าย ของการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ซึ่งหากร่างกาย ได้รับเชื้อ เข้าไปแล้ว เชื้อเอชไอวี จะเข้าไปทำลาย เม็ดเลือดขาว ทำให้มีระบบภูมิคุ้มกัน ที่มีความบกพร่อง จนไม่สามารถกำจัด หรือต่อสู้กับเชื้อ ที่เข้าไปสู่ ร่างกายได้ จึงทำให้ผู้ป่วย ที่ติดเชื้อเอชไอวี เกิดอาการ เจ็บป่วยต่าง ๆ และอาจนำไปสู่ การเสียชีวิตลงได้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันก็ยังไม่มีวิธีการใด ที่สามารถรักษาโรคเอดส์ ให้หายขาดได้ มีเพียงแต่ยา ที่ช่วยชะลอการพัฒนาโรค และลดอัตรา ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ด้วยโรคเอดส์
ซิฟิลิส กับ เอดส์ เหมือนกันไหม ตอบได้เลยว่าไม่เหมือนกัน โรคซิฟิลิส (Syphilis) จะต่างจาก โรคเอดส์ (AIDS) ตรงที่สามารถ รักษาให้หายขาดได้ ในระยะที่หนึ่ง ระยะที่สอง ซึ่งทั้งสองระยะนี้ สามารถรักษาได้ ไม่ยาก อาจรักษา ด้วยการรับประทานยา หรือการฉีดยา โดยมีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ในการดูแลรักษา จึงสามารถ ทำให้หายขาดได้
แต่ หากปล่อยไว้ไม่เข้า รับการรักษา การติดเชื้อ ในระยะที่หนึ่ง หรือสอง ที่มีโอกาสหาย อาจลุกลามไปถึงระยะที่สาม หรือสี่ ที่มีอาการร้ายแรงมากขึ้น จนสามารถ รักษาได้ยากขึ้น เพราะอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย ได้ถูกทำลายไปบ้างแล้ว หากปล่อยไว้ อาจทำให้เสียชีวิตลงได้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าโรคซิฟิลิสนั้น จะสามารถ รักษาให้หายขาดได้ แต่หากมีพฤติกรรมเสี่ยง ก็สามารถรับเชื้อเพิ่ม และกลับมาเป็นใหม่ได้ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งเลย คือ การหลีกเลี่ยง การไปสัมผัสกับเลือด สารคัดหลั่งของผู้อื่น เป็นต้น
ดังนั้น นอกจากโรคซิฟิลิส จะแตกต่าง กับโรคเอดส์ตรงที่ ซิฟิลิสสามารถ รักษา ให้หายขาดได้ ซึ่งจากต่างจาก โรคเอดส์ ที่ไม่สามารถ รักษาให้หายขาดได้ จะมีก็เพียง แต่ยาที่ช่วย ในการชะลอการพัฒนาโรค และลดอัตราความเสี่ยงในการเสียชีวิตลง ด้วยโรคเอดส์ก็เท่านั้น
ทั้งนี้ ทั้ง 2 โรค นับเป็นโรค ที่มีสามเหตุ มาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย ถือว่าเป็นโรค ที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากผู้ที่กำลัง มีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ ก็ควรทำการตรวจ ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งในปัจจุบัน ได้มีชุดตรวจซิฟิลิสด้วยตนเอง และชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ที่มีความปลอดภัย แม่นยำและได้มาตรฐาน
โดยทาง อย. ได้มีการปลอดล็อค ให้สามารถ วางจำหน่าย ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ผ่านทางร้านขายยา หรือผ่านทางอินเตอร์เน็ต เพื่อให้ ประชาชนทั่วไป สามารถ เข้าถึงได้ง่าย และเพื่อเป็นทางออก ให้สำหรับ ผู้ที่มีความเสี่ง แต่ไม่กล้าเดินทาง ไปตรวจ ตามสถานพยาบาล หรือคลินิกนิรนาม
อย่างไรก็ตาม หากไปได้รับความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อมา ทางออก ที่ดีที่สุด ที่จะทำให้คุณคลาย ความกังวลใจได้ ก็คือ การตรวจคัดกรอง เพื่อหาสาเหตุ ของการติดเชื้อ เพราะหากรู้ผล ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็ได้เข้ารับการรักษา ได้อย่างถูกต้อง และ เหมาะสม